ซื้อ-ขายมือถือ-ภาคตะวันออกซื้อ-ขายมือถือ77จังหวัดประเทศไทย

ซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนขายฝากมือถือ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ตชลบุรี

ต่อรอง บริการซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก

มือถือ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ตและอุปกรณ์ไอทีต่างๆ
เครื่องใหม่ มือสอง รับประกันศูนย์ ราคาปลีกและส่ง ทั่วไทย

www.torrong.com

แหล่งซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก มือถือ โน้ตบุ๊คและแท็บเล็ต


สำหรับลูกค้าท่านใด ที่กำลังมองหามือถือ โน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ตคุณภาพดีซักเครื่องในราคาที่ถูกและเหมาะสมต่อการใช้งานของลูกค้าเอง มาคุยกับเรา เรายินดีให้คำแนะนำพื่อให้ลูกค้าได้มือถือและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ถูกใจไปใช้ ทางเรามีนโยบายจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในราคาที่เหมาะสมแก่ลูกค้าทุกท่าน ลูกค้าสามารถตรวจเชคข้อมูลโทรศัพท์ที่ลูกค้าสนใจซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝากได้ที่เพจ @TorRongThailand
หรือจะสอบถามกับทางเราได้ทันทีที่
ID Line : @torrong

เพิ่มเพื่อน

ต่อรองราคา ติดต่อไลน์@

ต่อรองค่าใข้จ่าย ผ่านเฟซบุ๊ค

ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก มือถือ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต เครื่องใหม่ มือสอง เครื่องใหม่รับประกันศูนย์ ราคาปลีกและส่ง

รับเทิร์นมือถือ ทุกรุ่น ทุกสภาพ ทั้งเครื่องใหม่และเครื่องมือสอง เหมาทั้งล็อต ราคาปลีก-ส่ง อุปกรณ์ทุกเครื่องผ่านการเชคสภาพมาอย่างดี จึงได้คุณภาพแน่นอน เราจะแจ้งข้อมูลเครื่องให้ลูกค้าทราบ ก่อนทำการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน เพื่อความยุติธรรมต่อลูกค้า ลูกค้าจึงมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้าและการบริการ

ให้ราคาสูง ราคาดี โดนใจ รับประกันความพอใจ

ชลบุรี เป็นจังหวัดที่ติดกับอ่าวไทยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่งตั้งอยู่ นอกจากด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้ว ในขณะเดียวกันนั้นยังถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากรองจากกรุงเทพมหานคร นอกจากนั้นยังเป็นทั้งในด้านพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศแห่งหนึ่ง

ในอดีตจังหวัดชลบุรีนั้นเคยเป็นแหล่งที่ตั้งของเมืองท่าที่มีความสำคัญมาก แม้แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่มีความสำคัญของประเทศรองจากท่าเรือกรุงเทพ นั่นก็คือท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งเหมาะสม จังหวัดชลบุรีนั้นมีอาณาเขตติดกับจังหวัดฉะเชิงเทรา, จังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรี

ประวัติศาสตร์

จังหวัดชลบุรีเคยเป็นชุมชนโบราณที่เคยมีมนุษย์ยุคหินใหม่อาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เพราะว่าเคยมีการขุดค้นด้านโบราณคดีแล้วพบร่องรอยของชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำพานทองซึ่งอยู่ในบริเวณวัดโคกพนมดี ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม พบร่องรอยของชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์โคกพนมดี ทำให้สันนิษฐานได้ว่าในอดีตพื้นที่บริเวณจังหวัดชลบุรีเคยเป็นที่ตั้งเมืองโบราณที่มีความรุ่งเรืองถึง 3 เมือง ได้แก่ เมืองพระรถ, เมืองศรีพโล และเมืองพญาแร่ โดยอาณาเขตของ 3 เมืองนี้รวมกันเป็นจังหวัดชลบุรีในปัจจุบัน

ซึ่งแหล่งโบราณคดีที่ค้นพบในครั้งนั้นได้พบสิ่งมีคุณค่าทางโบราณคดีหลายอย่าง เช่น ขวานหินขัด, เครื่องประดับจำพวกกำไล, ลูกปัด เครื่องปั้นดินเผาแบบใช้เชือกทาบ และได้พบซากของอาหารทะเลอีกด้วย จึงทำให้ทราบว่าบริเวณนี้อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลมากกว่าปัจจุบันนี้มาก แหล่งโบราณคดีที่กล่าวอ้างทั้งหมดข้างต้นนั้นจึงเป็นหลักฐานยืนยันส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมาอันแสนยาวนานของจังหวัดชลบุรี

ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเมืองชลบุรีปรากฏเป็นหลักฐานในทำเนียบศักดินาหัวเมือง ตราเมื่อ พ.ศ. 1919 มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ผู้รักษาเมืองคือ “ออกเมืองชลบุรีศรีมหาสมุทร” ศักดินา 2,400 ไร่ ส่งส่วยไม้แดง จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าเมื่อ พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จยกทัพผ่านมาทางบริเวณจังหวัดชลบุรีในปัจจุบัน ก่อนที่จะเข้าตีเมืองจันทบุรี และยกทัพกลับไปกู้กรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ

ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ยังไม่มีการจัดตั้งจังหวัดชลบุรีขึ้นเป็นทางการ บริเวณจังหวัดชลบุรี ประกอบไปด้วยเมืองใหญ่ 3 เมือง คือ เมืองบางปลาสร้อย, เมืองพนัสนิคม และเมืองบางละมุง

ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองราชอาณาจักร โดยการจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาล ให้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของกระทรวงมหาดไทยหน่วยงานเดียว เมืองในจังหวัดชลบุรีจึงเข้าอยู่ในมณฑลปราจีนบุรี ดังมีบันทึกว่า

“รวมหัวเมืองทางลำน้ำบางปะกง คือ เมืองปราจีนบุรี 1, เมืองนครนายก 1, เมืองพนมสารคาม 1 และเมืองฉะเชิงเทรา 1 รวม 4 หัวเมือง เป็นเมืองมณฑล 1 เรียกว่า มณฑลปราจีน ตั้งที่ว่าการมณฑล ณ เมืองปราจีน ต่อเมื่อโอนหัวเมืองในกรมท่ามาขึ้นกระทรวงมหาดไทย จึงย้ายที่ทำการมณฑลลงมาตั้งที่เมืองฉะเชิงเทรา เพราะขยายอาณาเขตมณฑลต่อลงไปทางชายทะเล รวมเมืองพนัสนิคม, เมืองชลบุรี และเมืองบางละมุง เพิ่มให้อีก 3 รวมเป็น 7 เมืองด้วยกัน แต่คงเรียกชื่อว่ามณฑลปราจีนอยู่ตามเดิม ”

ต่อมาในสมัยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงรูปการปกครองประเทศครั้งใหญ่ จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยพระราชบัญญัติระเบียบราชการบริหารแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกเขตการปกครองแบบ “เมือง” ทั่วราชอาณาจักร แล้วตั้งขึ้นเป็น “จังหวัด” แทน เมืองบางปลาสร้อย, เมืองพนัสนิคม และเมืองบางละมุง จึงรวมกันกลายเป็นจังหวัดชลบุรี โดยใช้บริเวณเมืองบางปลาสร้อยเดิมจัดตั้งเป็นอำเภอบางปลาสร้อย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นอำเภอเมืองชลบุรี ในปี พ.ศ. 2481

เมืองพนัสนิคมยุบเป็นอำเภอพนัสนิคมก่อนที่จะแยกออกเป็นอำเภอบ้านบึง, อำเภอหนองใหญ่, อำเภอพานทอง, อำเภอบ่อทอง และอำเภอเกาะจันทร์ เมืองบางละมุงยุบเป็นอำเภอบางละมุง ก่อนที่จะแยกออกเป็นอำเภอศรีราชา, อำเภอสัตหีบ และเปลี่ยนข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างในปัจจุบัน

การปกครองแบ่งออกเป็น 11 อำเภอ 92 ตำบล 687 หมู่บ้าน

อำเภอเมืองชลบุรี
อำเภอบ้านบึง
อำเภอหนองใหญ่
อำเภอบางละมุง
อำเภอพานทอง
อำเภอพนัสนิคม
อำเภอศรีราชา
อำเภอเกาะสีชัง
อำเภอสัตหีบ
อำเภอบ่อทอง
อำเภอเกาะจันทร์